Charts - Kagi Charts
Charts - Kagi Charts
การลบสัญญาณที่เป็น Noise เป็นสิ่งสำคัญสิ่งหนึ่งในการเทรด โดยใช้เทคนิคการลบ Noise เพื่อให้เทรดเดอร์สามารถหลีกเลี่ยงสัญญาณหลอกและได้รับภาพเทรนด์ที่ชัดเจนยิ่งขึ้น
วิธีการที่จะกรอง Noise วิธีหนึ่งที่เราจะให้ความสนใจในครั้งนี้
เรียกว่า kagi chart.
การสร้าง Kagi Chart
Kagi charts เป็นชุดของเส้นแนวตั้งที่ขึ้นอยู่กับราคามากว่าที่จะเป็นเวลา
ซึ่งกราฟประกอบทั่ว ๆ ไป จะประกอบด้วย เส้น
แท่งเทียน ในชาร์ทข้างล่าง
สิ่งแรกที่เทรดเดอร์จะเห็นคือว่า เส้นในกราฟ Kagi จะมีความหนาแตกต่างกัน
ซึ่งขึ้นอยู่กับราคาของสินทรัพย์นั้น บางครั้ง เส้นจะบาง
ขณะที่บางครั้งเส้นจะหนาและดำ
ซึ่งความแตกต่างกันนี้และทิศทางของมันจะเป็นสิ่งที่สำคัญใน Kagi ชาร์ทเพราะว่าสิ่งที่เทรดเดอร์ใช้สิ่งเหล่านี้ให้การวัดสัญญาณ
|
|
|
Figure 1 |
|
Source: MetaStock |
Kagis และ แท่งเทียน
ความแตกต่างระหว่างความหนาของเส้น
บนคากิชาร์ทอาจจะดูน่าสับสนในตอนแกรทีนี้เรามาดูตัวอย่างของบริษัท Apple Computer Inc. (Nasdaq:AAPL) ในระหว่างวันที่ 8 พฤษภาคม
และวันที่ 1 ธันวาคม 2006 เราได้แนบภาพกราฟแท่งเทียบปกติเพื่อแสดงให้เห็นถึงราคาของสินทรัพย์อ้างอิงได้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรใน
kagi chart ในตัวอย่างนี้จะทำให้มันง่ายขึ้นเพื่อเข้าใจว่ากราฟ
Kagi เกิดขึ้นได้อย่างไร
อย่างที่เห็นในรูปที่ 2 ราคาของ AAPL เริ่มที่จะลงอย่างรวดเร็ว หลังจากวันนั้น
เมื่อราคาลดลง เส้นตรงจะสร้างขึ้นใน กราฟ kagi และจุดก้นสุดของเส้นตรงจะเท่ากับจุดต่ำสุดของราคาปิด
ถ้าช่วงแท่งถัดไปปิดต่ำกว่าราคาต่ำสุน จะต้องต่อด้วยเส้นตรงลงอีก หนึ่งเส้น
ไปตรงจุดต่ำสุด และ เส้นจะไม่เปลี่ยนทิศทางจนกว่าราคาจะเคลื่อนไหวขึ้นเหนือจุดต่ำสุดของ
kagi ซึ่งอาจจะสูงกว่า 4% อย่างไรก็ตามอาจจะสามารถเปลี่ยนได้ขึ้นอยู่กับ
หุ้น หรือว่าความชอบของเทรดเดอร์
|
|
|
Figure 2 |
|
Source: MetaStock |
จุดกลับตัว(The Reversal)
ในวันที่
1 มิถุนายน 2006
หุ้น AAPL shares ปิดเหนือราคาต่ำสุดของ kagi
ที่ 4.02% มากกว่าราคาจุดกลับตัวซึ่งต้องเปลี่ยนทิศทาง
จากกราฟข้างล่าง จะเห็นว่า จะแสดงจุดกลับด้วยโดยเส้นแนวอนนเล็ก ๆ
และทิศทางของจุดกลับตัว การขึ้นของเส้น Kagi line จะยังคงเป็นทิศทางขาขึ้นจนกว่าราคาจะลงต่ำกว่าราคา
high มากกว่า 4%
.
|
|
|
Figure 3 |
|
Source: MetaStock |
จุดกลับตัวเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับเทรดเดอร์หลาย ๆ คนเพราะว่า
นี่เป็นสัญญาณกระทิงสัญญาณแรกที่มีมาจากกราฟ
ตั้งแต่กราฟได้ถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม อย่างไรก็ตาม โชคไม่ดีสำหรับสัญญาณกระทิงนี้ มันค่อนข้างสั้น
และ ทำให้มันกดราคาต่ำกว่าอีกครั้งและแสดงเส้นลงในการสร้างกราฟ Kagi อีก การเกิดจุดกลับตัวทำให้เกิด เส้นลงอีกเส้น
เมื่อคุณดูรูปที่ สี
ภาวะตลาดกระทิงและหมีใช้เวลาภายไม่กี่สัปดาห์ในการต่อสู้กันบนหุ้นแอปเปิ้ล
ซึ่งทำให้เกิดจุดกลับตัวหลายครั้ง การเคลื่อนไหวของจุดสูงกว่าจุดต่ำ 3 ครั้งที่เกินช่วงเดือนมิถุนายน ถึงเดือนกรกฎาคมนั้นเกิดขึ้นมากกว่า 4
% ของกราฟ ซึ่งทำให้เกิดจุดกลับตัว
ซึ่งแสดงให้เห็นถึงจุดที่ตลาดกระทิง
แต่ว่าไม่มีแรงเพียงพอที่จะเกิดจุดกลับตัวขาขึ้นอย่างจริงจัง
|
|
|
Figure 4 |
|
Source: MetaStock |
เส้นหนา (The Thick Line)
จำนวนของสัญญาณกลับตัวหลอกเริ่มจะแสดงให้เทรดเดอร์ว่า
ภาวะที่จะเกิดการกลับตัวมีแนวโดน้มเพิ่มขึ้น ว่าภาพรวมยังอยู่ในขาลง
ซึ่งทั้งหมดมันเกิดการเปลี่ยนแปลงวันที่ 20 กรกฎาคม 2006
เพราะว่าเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงมากกว่า 4 %
ซึ่งจริง ๆ แล้วครั้งนี้ราคากลับตัวแรงพอที่จะสูงกว่าราคา High
ครั้งก่อน ใกล้ราคาที่ 59 เหรียญ
ซึ่งแสดงตามกราฟได้ดังนี้
|
|
|
Figure 5 |
|
Source: MetaStock |
และเริ่มเปลี่ยนจากเส้นบาง ๆ เป็นเส้นหนา
เพื่อให้แสดงสัญญาณว่านี่คือสัญญาณ Buy และเข้าเทรดเมื่อสัญญาณ
Kagi นั้นสูงกว่า ราคา High ก่อนหน้า
จากที่คุณได้เห็นในภาพที่ 6 กราฟ มีการกลับตัวและวิ่งขึ้น
แต่ว่ามันเป็นมากกว่าจุดกลับตัวทั่วไป
ในตัวอย่างนี้ ตลาดขาลงไม่สามารถทำให้ราคาทำ New Low ได้จึงใส่เส้นหนาเข้าไป
เมื่อภาวะขาขึ้นต่อเนื่องอีกครั้งเกิดขึ้นในกลางเดือนสิงหาคม
ราคาเคลื่อนที่ขึ้น และสร้างจุดสวิงราคาต่ำที่จะถูกใช้ในการสร้างสัญญาณ Sell
ในอนาคต การที่ขาดสัญญาณ Sell ต่อไปทำให้เทรดเดอร์สามารถสร้างกำไรจากการที่เป็นเทรนด์ขาขึ้นชัดเจน
โดยที่ราคาไม่มีการแกว่งตัว
|
|
|
|
|
Source: MetaStock |
ตัวอย่างของกราฟระยะยาว (Longer-Term Example)
ตอนนี้เราไดเข้าใจบ้างแล้วว่า กราฟ Kagi นั้นมีลักษณะเป็นเช่นไร
ทีนี้เราลองมาดูตัวอย่างที่เป็นกราฟระยะยาวกันบ้าง โดยใช้กราฟ Apple
Computers (Nasdaq:AAPL) (April 30, 2005-
December 31, 2006) จะสังเกตุว่ามีการเคลื่อนไหวขึ้นสูงกว่า High
ครั้งก่อนและเริ่มเป็นเส้นหน้า
ขณะที่เมื่อราคาต่ำก็ทำให้เส้นบางอีกครั้ง การเปลี่ยนความหนาของเส้น
เป็นกุญแจสำคัญอย่างหนึ่งในการตัดสินใจเกี่ยวกับสัญญาณซึ่งแสดงให้เห็นว่าช่วงนี้ภาวะขาขึ้นหรือขาลงนั้นมีอิทธฺพลต่อตลาด
จำไว้ว่าการเปลี่ยนจากบางเป็นหนาจะใช้เป็นสัญญาณซื้อ
การเปลี่ยนจากหนาเป็นบางก็อาจจะใช้เป็น Sell
|
|
|
Figure 7 |
|
Source: MetaStock |
สรุป
ความผันผวนของแต่ละวันสามารถทำให้การเทรดเป็นเรื่องยาก
ในการตัดสินใจเข้าเทรด แต่โชคดีที่มีกระบวนการที่กรองได้อย่างเช่น Kagi ชาร์ท ช่วยให้กรองสัญญาณที่ไม่มีความสำคัญออกไปได้
และไม่มีผลกับราคาในอนาคต ขณะที่คุณเรียนรู้เหมือนว่าอาจจะเป็นการสร้างกราฟที่มั่ว
แต่ว่าความจริงแล้ว การเคลื่อนไหวของเส้นขึ้นอยู่กับ ราคา
และสามารถใช้สร้างกำไรได้ ซึ่งเทคนิคอย่างนี้ ไม่ค่อยมีเปิดเผยมากนัก
แต่ว่ามันสามารถใช้เคราะห์เทรนด์ของสินทรัพย์ได้อย่างดี ซึ่งจะไม่แปลกใจเลย
ที่มีไม่กี่คนที่ใช้กราฟนี้ในการเทรด
Comments
Post a Comment